หน้าเว็บ

วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

รา

รา

มีตั้งหลายอย่างบนโลกใบนี้ที่ควรจะเป็นกันอาทิ นายอำเภอ ผู้ว่า สส. ทหาร ตำรวจ เป็นต้น แต่..เพื่อนรักของผมดันเลือกที่จะเป็นโรคเชื้อรา ก็เลยต้องค้นคว้าเพื่อช่วยเพื่อนกันหน่อย และใครมีปัญหาเชื้อราไม่ว่าจุดใดของร่างกาย ก็ยินดีให้อ่านฟรี ๆ นะครับ ตามมา!!!!

จากงานวิจัยของ " Journal of Dental Sciences and Research " กล่าวว่า การติดเชื้อรา อาทิ เชื้อ Candida ได้พุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาและยามาตรฐานที่ใช้ในการรักษามีข้อบกพร่องมากมาย ยาต้านเชื้อราทั้งมีราคาที่แพงและเป็นพิษอีกทั้งการใช้ยาบ่อยๆนำไปสู่การพัฒนาสายพันธ์ที่ดื้อยาต้านเชื้อรา ผู้ปฏิบัติงานด้านอายุรเวทจึงหันมาใช้อาหารในการต่อสู้และป้องกันการติดเชื้อราและแน่นอนว่าอาหารป้องกันเชื้อรามักจะมีความปลอดภัยและปลอดพิษเสมอ

Candida เป็นหนึ่งในชื่อทางวิทยาศาสตร์ของยีสต์ซึ่งเป็นรูปแบบของเชื้อรา โดยธรรมชาติจะมีปริมาณที่น้อยมากซึ่งอาศัยอยู่ในปากและลำไส้ของคุณเพื่อช่วยย่อยอาหาร แต่การกินยา อาหาร และสภาพแวดล้อมสามารถเปลี่ยนความสมดุลตามปกติของ Candida ในตัวคุณ เมื่อมันขยายพันธ์ได้มากขึ้นมันจะทำลายผนังลำไส้ให้แยกตัวและเข้าสู่กระแสเลือดได้โดยตรงและปล่อยความเป็นพิษที่อาจทำให้เกิดลำไส้รั่ว อาการของการมีเชื้อ Candida มากจนเกินไปสามารถเริ่มได้ตั้งแต่ปัญหาในการย่อยอาหารไปจนถึงภาวะซึมเศร้า

แล้วจะรักษาโรคนี้อย่างไรถ้าไม่ใช้ยาล่ะ!!

-ทำให้ยีสต์อดอาหาร
-เอาชนะยีสต์
-สร้างแบคทีเรียที่ดี

เมื่อคุณต้องการให้ยีสต์อดอดอาหารคุณควรที่จะรู้จักอาหารของพวกมันเสียก่อนซึ่งก็คือ น้ำตาล คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (ข้าวขาว แป้งขัดขาว)และอาหารที่มีส่วนผสมของยีสต์ ด้วยเหตุนี้คุณจึงต้องลดการเอาน้ำตาล คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว เหล้า ผลไม้แห้ง น้ำผลไม้ อาหารหมักดองแบบไม่ระบุเชื้อที่หมัก *, น้ำส้มสายชูบางชนิด**น้ำผึ้ง นม นมถั่วเหลือง และเห็ดเข้าไปในตัวคุณและนอกจากนี้คุณจะต้องจำกัดพืชตระกูลถั่วและธัญพืช ไม่ให้เกิน 1 ถ้วยต่อวัน

แน่นอนที่สุดเมื่อ Candida อยู่ในตัวคุณและคุณต้องการเอาชนะมัน คุณอาจได้รับคำแนะนำให้ใช้ยาต้านเชื้อราเช่น Diflucan หรือ Nystatin หรืออาหารเสริมป้องกันเชื้อราเช่น กรดไขมันcandisol หรืออาหารต้านเชื้อราหรือผสมผสาน แต่ถ้าคุณไม่อยากได้รับผลข้างเคียงจากกยาต้านเชื้อรา..!!!!!
ผมว่าอาหารเหล่านี้ซึ่งถูกใช้มานับพันปีเพื่อกำจัดเชื้อราก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี

ขิง

สมุนไพรรสเผ็ดไม่เพียงแต่จะเพิ่มรสชาติให้อาหาร แต่ยังมีคุณสมบัติในการใช้บำบัดโรค

ขิงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพและมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราที่เยี่ยมยอดไม่ว่าจะสดหรือแห้งหรือเป็นสารสกัดจาก ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน " Journal of Dental Sciences and Research " ในปี 2011 ได้ตรวจสอบผลของสารสกัดจากขิงต่อเชื้อรา Candida พบว่าสาร gingerol และ shogaol ในขิงช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเชื้อ Candida albicans 

กระเทียม

กระเทียม..เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความสามารถในการต่อสู้กับจุลินทรีย์ทุกชนิดรวมทั้งแบคทีเรีย ไวรัสและเชื้อรา เมื่อคุณสับกระเทียม เอนไซม์ที่เรียกว่า alliinase จะสัมผัสกับสารที่เรียกว่า allin และร่วมกันสร้างสาร allicin ซึ่งมีศักยภาพในการต่อต้านจุลินทรีย์และเชื้อรา กระเทียมยังมีสาร ajoene ซึ่งถูกค้นพบว่าช่วยต่อสู้กับเชื้อราหลายสายพันธุ์รวมทั้งเชื้อรา candida เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดผมแนะนำกระเทียมสดเพราะความร้อนทำให้บางส่วนของเอนไซม์ที่เป็นประโยชน์หายไป

โปรไบโอติก

โยเกิร์ต กิมจิ แตงกวาดอง กำหล่ำปลีดอง อุดมไปด้วยแบคทีเรียที่มีประโยชน์ที่รู้จักกันว่าเป็นโปรไบโอติก (เคยนำเสนอไปหลายครั้งมากแล้ว)

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

น้ำมันมะพร้าวเป็นนักฆ่า Candida ที่มีศักยภาพและเป็นหนึ่งในอาหารต้านเชื้อราที่มีศักยภาพมากที่สุด มันมีกรดลอริคและกรด Caprylic ซึ่งทั้งช่วยป้องกัน Candida และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของคุณ
น้ำมันมะพร้าวทนความร้อนได้สูงจึงเป็นน้ำมันที่เหมาะที่จะใช้สำหรับการทอดและการปรุงอาหาร คุณสามารถบริโภคได้ 2-3 ช้อนโต๊ะต่อวัน

หัวหอม

หัวหอมมีสารต้านเชื้อรา ป้องกันแบคทีเรียและป้องกันปรสิตที่สุดยอดมากๆ นอกจากนั้นยังช่วยในการล้างของเหลวส่วนเกินออกจากร่างกาย – สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์เพราะผู้ที่ติดเชื้อมักประสบปัญหาบวมน้ำ- เมื่อหัวหอมเข้าคู่กับกระเทียมเนื้อเยื่อของคุณก็หายใจสะดวกขึ้น

สาหร่ายทะเล

สาหร่ายทะเลเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางอาหารสูงที่จะช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับ Candida ได้ดี มันอุดมไปด้วยไอโอดีนที่จะช่วยปรับสมดุลของต่อมไทรอยด์ของคุณ – ผู้มีเชื้อ Candida มักจะมีภาวะไทรอยด์ต่ำแฝงร่วม สาหร่ายจะช่วยล้างสารพิษและโลหะหนักออกจากร่างกายและทำความสะอาดลำไส้ของคุณ

มันมะกอก

น้ำมันมะกอกมีสารพฤกษเคมีชื่อ Oleuropein ซึ่งพบได้ทั้งในน้ำมันและสารสกัดจากใบมะกอก มันมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราที่มีประสิทธิภาพและกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของคุณต่อ Candida นอกจากนี้ยังช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือด – สิ่งนี้สำคัญสำหรับผู้ติเชื้อ Candida เพราะระดับน้ำตาลในเลือดมักสูงและเป็นการให้อาหารแก่ยีสต์ในตัวคุณให้มีระดับเกินขนาด

น้ำมะนาว

น้ำมะนาวช่วยกระตุ้นการบีบตัวลำไส้ใหญ่ของคุณ เพิ่มประสิทธิภาพระบบการย่อยอาหารของคุณ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมะนาวแบบใดก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปรุงรสอาหารของคุณและล้างยิสต์ออกทางลำไส้

เมล็ดฟักทอง

เมล็ดฟักทองมีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูง ซึ่งกรดไขมันนี้มีสารต้านเชื้อรา สารป้องกันไวรัสและป้องกันปรสิต นอกจากนี้โอเมก้า 3 ยังช่วยลดภาวะซึมเศร้าและอาการอักเสบของผิวเช่นอาการปวดและผิวหนังมีปัญหา มันเป็นความจริงที่ว่าพวกเราส่วนใหญ่ได้รับโอเมก้า 3 ไม่เพียงพอต่อวันในการรักษาสุขภาพของต่อมไทรอยด์ที่เหมาะสม การพร่องกรดไขมันนี้เชื่อมโยงกับการลดระดับฮอร์โมนไทรอยด์ ลองเพิ่มเมล็ดฟักทองในเมนูอาหาร หรือเคี้ยวเล่นเวลาว่าง ๆ ก็ไม่เลวนะครับ 

พริกป่น

พริกป่นสนับสนุนระบบการย่อยอาหารและระบบภูมิคุ้มกันด้วยวิธีการตามธรรมชาติ มันจะช่วยลดอาการท้องผูกโดยการทำความสะอาดลำไส้ที่มี Candida และสารพิษอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเพิ่มการเผาผลาญอาหารและการไหลเวียนเลือดซึ่งจะช่วยในการลดอาการที่เกิดจาก Candida เช่น ความเมื่อยล้า 

** แอปเปิ้ลไซเดอร์ (น้ำส้มสายชู)

แอปเปิ้ลไซเดอร์เป็นประเภทหนึ่งของน้ำส้มสายชูที่ได้รับการยอมรับว่ามีเอนไซม์ที่ช่วยทำลาย Candida

ผักตระกูลกะหล่ำ

ผักตระกูลกะหล่ำเช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำและหัวไชเท้ามี สาร isothiocyanates สาร sulphur- และไนโตรเจนที่สามารถโจมตี Candida ได้

กานพลู

กานพลูประกอบด้วย eugenol ซึ่งเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีประสิทธิภาพมากในการต้านเชื้อรา น้ำมันกานพลูยังสามารถใช้ทาพื้นผิวที่ติดเชื้อราอาทิ นิ้วเท้าและเล็บ ได้ดีอีกด้วย

อบเชย

อบเชยเป็นเครื่องเทศต้านการอักเสบและมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อรา คล้ายกับกรด Caprylic ที่ดูเหมือนว่ามันจะทำลายเซลล์ยีสต์และทำให้พวกมันมีลักษณะผิดไปจากเดิมและตายในที่สุด อบเชยมีประโยชน์ในการรักษา Candida, H. pylori และแม้กระทั่งเหา แต่ก็ไม่ควรที่จะใช้ในขณะที่ตั้งครรภ์หรือเป็นโรคกระเพาะอาหารหรือแผลในลำไส้นะครับ 

ปลาที่มีโอเมก้า 3 สูง

แน่นอน คุณสมบัติก็เป็นดังที่กล่าวไว้แล้วด้านบน

พืชหัว

มัน เผือก หรืออะไรที่อยู่ใต้ดิน
สิ่งเหล่านี้ต้านเชื้อราได้ดีโดยธรรมชาติของมันเพราะเชื้อราอยู่ในดินมากที่สุด ดังนั้นการรับประทานอาหารพวกนี้บ่อย ๆ ย่อมต้านเชื้อราได้ดีเช่นกัน

ไม่ต้องลองครับ ใช้ได้เลย..ผมยืนยันว่าใช้ได้ผลดีจริง

ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

ไม่อ้างอิงเพราะมันเยอะมากมายครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น