หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ลมพิษ

ลมพิษ ถ้าคุณเคยมีอาการแพ้จำพวก ลมพิษ อาการคัดจมูก ปวดศีรษะหรือไอคุณอาจทราบแล้วว่ามันคือ ฮีสตามีน ซึ่งเป็นสารเคมีที่เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายสร้างขึ้นเมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ แต่อย่างไรก็ตามในประมาณร้อยละ 1 ของประชากร ฮีสตามีนที่มากจนเกินไปอาจทำให้เกิดอาการต่างๆเช่นท้องผูกและ/หรือท้องร่วง ไมเกรน การเต้นของหัวใจอย่างรวดเร็วและความดันโลหิตต่ำซึ่งร้ายแรงพอที่จะทำให้รู้สึกไม่สบายแต่ไม่ชัดเจนมากพอจึงมักเป็นปัญหาสำหรับแพทย์ในการวินิจฉัย การแพ้สารฮีสตามีนเป็นความผิดปกติที่ทำให้เกิดอาการได้หลากหลายและมักสับสนกับโรคอื่น ๆ แพทย์หลายคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้บ่อยนักและมักจะเข้าใจผิดถึงสภาพและทำการรักษาอาการโดยไม่เข้าใจสาเหตุที่แท้จริง สิ่งกระตุ้น
– ทุกอย่างจากโรคภูมิแพ้ ลำไส้รั่ว การมีโลหะหนักในร่างกาย การมีสารที่ไม่ละลายน้ำไปจนถึงการขาดเอนไซม์และการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยฮีสตามีนสามารถทำให้ระดับฮีสตามีนสูงขึ้นได้ แม้ว่าจะมีการถกเถียงกันอยู่ นักวิทยาศาสตร์บางคนกล่าวว่าประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเป็นกลุ่มที่ไม่ทนทานต่อฮีสตามีนและในหมู่ของพวกเขาร้อยละ 80 เป็นวัยกลางคน (1) !! ฮีสตามีนและการแพ้ฮีสตามีน ฮีสตามีนจัดอยู่ในกลุ่มสารสื่อประสาทที่มีโมเลกุลขนาดเล็กเช่นเดียวกับ serotonin, epinephrine (อะดรินาลีน) และ dopamine และจะมีปริมาณเล็กน้อยไหลเวียนไปทั่วร่างกายของคุณอยู่เสมอเพื่อการสื่อสารข้อความไปยังสมองของคุณ บันทึกจาก Regenerative Medicine (2)…ในฐานะที่เป็นสารสื่อประสาท ฮีสตามินจะถูกส่งผ่านไประหว่างเซลล์ประสาทในระบบประสาทและเซลล์ประสาทจะปล่อยโมเลกุลและส่งผ่านจากจุดสิ้นสุดของเซลล์ประสาทไปยัง synapse (ช่องว่างระหว่างเซลล์ประสาท) จากนั้น : "... เมื่อตัวรับได้รับเอาไว้ จากนั้นเซลล์ประสาทจะส่งผ่านสารสื่อประสาทอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลในปฏิกิริยา การกระตุ้นอย่างต่อเนื่องของเซลล์ประสาททำให้เกิดปฏิกิริยาในร่างกายที่เฉพาะเจาะจงกับชนิดของสารสื่อประสาทที่ถูกส่งผ่าน " (3) มันช่วยควบคุมการนอนหลับ การทำงานทางสรีรวิทยาในลำไส้และยังช่วยให้คุณได้รับการตอบสนองทางเพศ แต่ Paleo Leap อธิบายว่า: "เมื่อสารก่อภูมิแพ้กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน แมสต์เซลล์ (ชนิดของเซลล์เม็ดเลือดขาว) จะปลดปล่อยฮีสตามีนออกมาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันต่อการอักเสบนั่นคือการอักเสบที่ทำให้คุณบวม ตาบวมหรือมีผื่นแดงและผดผื่นคัน ...เช่นเดียวกับการสร้างในระหว่างการตอบสนองภูมิคุ้มกัน ฮีสตามีนสามารถดูดซึมได้จากอาหารที่มีฮีสตามีนและผลิตโดยแบคทีเรียในลำไส้ "(4) !! เอ็นไซม์ DAO ทำลายฮีสตามีน เมื่อโดนสารเคมีที่เป็นพิษหรือแมลงกัดต่อยที่ผิวหนังของคุณ ฮีสตามีนจำนวนมากจะระดมไปยังจุดนั้น แต่อย่างไรก็ตามในคนที่มีสุขภาพดีปริมาณของฮีสตามีนจะมีความความสมดุลโดย Diamine Oxidase (DAO): เอนไซม์ในลำไส้ของคุณที่ทำลายฮีสตามีน (5) เมื่อระบบของคุณมีความสมดุลปัญหาเหล่านี้แทบจะไม่เกิดขึ้นแต่ถ้ามีการขาด DAO ฮีสตามีนสามารถก่อตัวขึ้นในร่างกายของคุณและทำให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ได้ (เอนไซม์อื่น: N-methyl transferase หรือ HMT มักเป็นสาเหตุของอาการที่คล้ายคลึงกับอาการแพ้) หากร่างกายของคุณไม่สามารถทำลายฮีสตามีนได้อย่างถูกต้องการก่อตัวของสารเคมีอาจเพิ่มมากขึ้น !!เพื่อให้มองเห็นภาพจะขอยกตัวอย่างถึงอ่างอาบน้ำ: เมื่อมีน้ำไหลเข้ามากเกินไปท่อระบายน้ำที่อยู่ด้านบนจะปล่อยน้ำส่วนเกินออกเพื่อป้องกันไม่ไห้น้ำไหลออกนอกอ่าง หน้าที่ของ DAO คือการป้องกันส่วนเกินในคนที่มีสุขภาพดี ในขณะที่คนที่มีอาการแพ้สารฮีสตามีนจะประสบกับสิ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นภาวะน้ำท่วม "อ่าง" เมื่อมีอาการแพ้แต่สารก่อภูมิแพ้ก็ไม่ได้ถูกกำจัดออก -นักวิทยาศาสตร์บางคนเรียกมันว่า "pseudoallergy" หากต้องการทราบว่าอาการของคุณเป็นโรคภูมิแพ้หรือแพ้สารฮีสตามีนหรือไม่ คุณสามารถได้รับการทดสอบ DAO เพื่อตรวจสอบแต่อาจเบี่ยงเบนไปเนื่องจากเอนไซม์อื่น ๆ สามารถลดฮีสตามีนได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการทดสอบผิว; การศึกษาหนึ่งแสดงให้เห็นว่าร้อยละ 79 ของคนที่แพ้ฮีสตามีนเกิดปฏิกิริยาแต่ก็มีถึงร้อยละ 19 ของคนที่ไม่แพ้เกิดปฏิกิริยาเช่นกัน ดังนั้นมันจึงไม่แม่นยำมากนัก(6) ภาวะแทรกซ้อนเลวร้ายยิ่งสำหรับผู้หญิงเนื่องจากการผลิต DAO อาจมีความผันผวนตามรอบเดือน (7) ฮีสตามีนสูงขึ้น(อาการแย่ลง)ในระยะ luteal (ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังจากสิ้นสุดประจำเดือนและฮีสตามีนลดลง (ดีขึ้น) ในช่วงระยะ follicular: ส่วนที่เหลือของเวลา) !!ต่อสู้กับฮีสตามีนส่วนเกิน ร่างกายของคุณไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อให้สามารถจัดการกับสารเคมีจำนวนมากเหล่านี้ได้ ร่างกายสามารถช่วยต่อต้านฮีสตามีนโดยการผลิต epinephrine (อะดรินาลีน) เพื่อช่วยปิดการใช้งานของมัน นอกจากความรับผิดชอบในการตอบโต้แบบ"fight-or-flight"แล้ว อะดรีนาลีนยังสามารถเริ่มต้นก่อความรู้สึกวิตกกังวลและแม้กระทั่งการโจมตีด้วยความหวาดกลัว(แพนิค) แพทย์บางคนแนะนำให้ใช้ Benadryl หรือยาแก้แพ้อื่น ๆ ในการปราบปรามฮีสตามีนในร่างกายของคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจึงมีโฆษณาสำหรับคนที่มีอาการเย็นชาบริเวณศีรษะจึงต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็น antihistamine เพื่อลดอาการบวมของจมูกและกระตุ้นการหลั่งของเหลว..แต่น่าเสียดายที่ยาเหล่านี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่สำคัญและการบรรเทาก็มีแนวโน้มที่จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ นอกจากนี้ยาแก้แพ้ (Antihistamines) ยังสามารถทำให้เกิดอาการง่วงนอนได้เช่นกัน โดยปกติร่างกายของคุณจะควบคุมปริมาณฮีสตามีนที่มีอยู่เพื่อการไหลเวียนโลหิตซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ร่างกายของคุณตื่นและตื่นตัว ฮีสตามีนยังมีบทบาทในการหลั่งภายในกระเพาะอาหารโดยกระตุ้นการผลิตกรดในกระเพาะอาหารของคุณ American Journal of Clinical Nutrition (AJCN) ได้เผยแพร่รายการอาหารที่อุดมไปด้วยฮีสตามีนซึ่งอาจทำให้เกิดอาการในคนที่มีอาการแพ้ฮีสตามีนซึ่งรวมถึง ซอสมะเขือเทศ ชีสพาเมซานและแชมเปญ (8) Mind Body Green (9) ได้แสดงอาการที่พบบ่อยของปัญหานี้ดังนี้: -อาการปวดหัว / ไมเกรน -หลับไม่ลึก นอนหลับยาก -ความดันโลหิตสูง -เวียนศีรษะ มึนงง - Arrhythmia หรืออัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้น -อุณหภูมิร่างกายที่ควบคุมได้ยาก -ความแออัดของจมูก หายใจลำบาก -ความกังวล -คลื่นไส้อาเจียน -หน้าแดง -ปัญหาเกี่ยวกับช่องท้อง -ตะคิว -ความเมื่อยล้า -รอบเดือนผิดปกติ -อาการโรคลมพิษ -เนื้อเยื่อบวม อาการอื่น ๆ ของการมีฮีสตามีนเกินได้แก่ การทำให้เกิดอาการชัก สับสน อาการเจ็บหน้าอก โรคตาแดง การเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นและอาการคันที่รุนแรง(10) !! แนวคิดที่ดีกว่าในการวินิจฉัยการแพ้ฮีสตามีน: การกำจัดอาหาร การกำจัดอาหารอาจเป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการตรวจสอบว่าคุณกำลังทำปฏิกิริยากับฮีสตามีนในอาหารหรือไม่.. Paleo Leap กล่าวว่า..กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นภายใน 4 สัปดาห์โดยการไม่กินอาหารที่มีสารฮีสตามีนตามธรรมชาติเลย (11) !!อาหารชนิดใดที่ควรกำจัดในระหว่างการทดสอบการแพ้ฮีสตามีนของคุณ การศึกษาแสดงให้เห็นว่าฮีสตามีนในอาหารไม่ใช่เรื่องสำคัญแต่มันอาจเป็นสาเหตุของปัญหา มันถูกผลิตจากส่วนหนึ่งของกระบวนการเผาผลาญอาหารดังนั้นสำหรับคนที่มีอาการแพ้ฮีสตามีน อายุของอาหาร(การจัดเก็บ)และอาหารหมักดองอาจเป็นปัญหาได้ สามประเภทของอาหารที่ครอบคลุมมากที่สุดเกี่ยวกับฮีสตามีน : -อาหารที่มีฮีสตามีนสูงมาก : อาหารทะเลโดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาทะเลกระป๋องหรือปลารมควัน -อาหารที่มีฮีสตามีนสูง : ชีส อาหารหมักดองเช่นกิมจิ กะหล่ำปลีดอง โยเกิร์ตและคีเฟอร์ แอลกอฮอล์ น้ำส้มสายชูและเนื้อหมู อาหารฮีสตามีนปานกลาง : ผักโขม เห็ด มะเขือเทศ มะเขือยาว ผักกระป๋อง ผลไม้แห้ง สตรอเบอร์รี่ มะละกอ อะโวคาโดและสับปะรด ในหลายรายสามารถปรับปรุงอาการได้โดยการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฮีสซามีนสูงแม้ว่าคุณจะกินอาหารที่ฮีสซามีนขนาดกลางเป็นครั้งคราว หนึ่งการศึกษาพบในกรณีเด็กชายอายุ 6 ปีที่มีโรคภูมิแพ้ผิวหนังอย่างเห็นได้ชัดจากเนื้อหมู เขาได้เข้าร่วมในการทดสอบความท้าทายต่ออาหาร เมื่อเขาหยุดทานอาหารที่มีฮีสตามีนสูงและควบคุมปริมาณอาหารที่เป็นฮีสตามีนปานกลาง อาการของเขาก็ดีขึ้น (12) !! ฮีสตามีนจากการเหนี่ยวนำ หมวดอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกินอาหารที่ไม่มีฮีสตามีนแต่สามารถกระตุ้นให้ร่างกายของคุณปล่อยฮีสตามีนออกมาได้มากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่ไวต่ออาหารที่มีกำมะถันเช่น สตรอเบอร์รี่ หัวหอมและกีวี ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่รุนแรงมากเพราะความไวนี้สามารถก่อให้เกิดการช๊อคและอาจถึงขั้นเสียชีวิต.. Chris Kresser แพทย์ผู้ได้รับใบอนุญาตการแพทย์บูรณาการกล่าวว่า: "สำหรับคนที่มีอาการแพ้ฮีสตามีน การงดรับประทานอาหารที่มีฮีสตามีนต่ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับระยะเวลาหนึ่งและหลังจากนั้นร่างกายอาจมีการยอมรับปริมาณฮีสตามีนในปริมาณเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบุคคลและความไวของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันอย่างมาก"(13) !!การแพ้ฮีสตามีนเกี่ยวข้องกับการเจริญเติบโตที่มากจนเกินไปของแบคทีเรียในลำไส้เล็ก : Small Intestine Bacterial Overgrowth (SIBO) (14) และ Dysbiosis (15) ซึ่งหมายถึงแบคทีเรียที่ไม่ดีมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นและแบคทีเรียที่ดีมีจำนวนลดลง Kresser กล่าวว่า : "...สาเหตุหลักของการแพ้ฮีสตามีนคือการเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางประเภทที่ทำให้เกิดฮีสตามีนจากอาหารที่ไม่ได้รับการย่อยและนำไปสู่การสะสมของฮีสตามีนในลำไส้และเกินความสามารถของร่างกายในการทำลายฮิสตามีนส่วนเกิน ซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกไวต่ออาหารที่มีฮีสตามีนและเพิ่มอาการที่มักเกี่ยวข้องกับอาการแพ้ "(16) เพื่อปรับปรุงความอดทนของคุณต่ออาหารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยา คุณต้องรักษาลำไส้ของคุณและแก้ไขปัญหา Dysbiosis หรือ SIBO ที่อาจเกิดขึ้น คุณอาจพบว่าการขจัดอาหารที่มีฮีสตามีนสูงมากและการจำกัดอาหารที่ฮีสตามมีนปานกลางถึงต่ำอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการปรับปรุงอาการที่คุณกำลังประสบอยู่ !! การทานอาหารหมักดอง ส่วนใหญ่ของเอ็นไซม์ DAO มาจากจากลำไส้เล็ก (17) และเมื่อลำไส้เล็กของคุณมีสุขภาพดี มันจะมีเอนไซม์ที่ช่วยขจัดฮีสตามีนได้ แต่น่าเสียดาย...อาหารที่ผ่านการหมักตกอยู่ในกลุ่มฮีสตามีนสูงเนื่องจากแบคทีเรียที่ดีจะผลิตฮีสตามีนในระหว่างกระบวนการหมัก การตอบสนองต่ออาหารหมักดองเป็นสัญญาณสุดคลาสสิกของการแพ้ฮีสตามีนโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าแพ้ต่ออาหารเสริมโพรไบโอติก.. Paleo Leap กล่าวว่า : "ความสำคัญของระบบลำไส้ในการสร้างและทำลายฮีสตามีนสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ฮีสตามีนได้อย่างฉับพลันในชีวิตถ้าคุณ...ใช้ยาปฏิชีวนะ...หรือเปลี่ยนแปลงอาหารของคุณอย่างมาก เมื่อจุลชีพในลำไส้เริ่มฟื้นตัวหลังจากการบาดเจ็บสภาพแวดล้อมก็จะสุกงอมสำหรับการเจริญเติบโตที่มากเกินปกติของเชื้อแบคทีเรียและแบคทีเรียที่เป็นตัวสร้างฮีสตามีนอาจโดนเด่นกว่าแบคทีเรียตัวอื่น ๆ ในบางกรณีการรับประทานอาหารหมักที่เป็นโพรไบโอติกอาจจะทำให้ปัญหาแย่ลง "(19) แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดการแก้ปัญหาการแพ้สารฮีสตามีนก็ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงอาหารหมักดองและอาหารที่มีฮีสตามีนอื่น ๆ ตามที่ระบุไว้ใน Body Ecology:(20) "ถ้าคุณเชื่อว่าคุณมีการพัฒนาไปสู่การแพ้ฮีสตามีน การหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฮีสตามีนสูงอาจทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นแต่คุณจะได้ไม่รักษารากเหง้าของโรค ระบบนิเวศภายในของคุณและระบบภูมิคุ้มกันของคุณ (ซึ่งรวมถึงฮีสตามีน) ทั้งหมดทั้งมวลทำงานร่วมกัน ในท้ายที่สุด..การคืนความสมดุลมีความสำคัญมากกว่าการหลีกเลี่ยงอาหาร เพื่อการรักษาอาการแพ้ฮีสตามีนและเพื่อต้อนรับอาหารหมักดองกลับเข้ามาในชีวิตของคุณ ...คุณต้องรักษาลำไส้ของคุณ !! ..คนที่มีอาการแพ้ฮีสตามีนควรหลีกเลี่ยงอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันที่เป็นสายห่วงโซ่ยาวเนื่องจากมันจะกระตุ้นการปลดปล่อยสารฮิสตามีนในระหว่างการย่อยอาหาร ในขณะที่ไขมันห่วงโซ่ปานกลางในน้ำมันมะพร้าวไม่เป็นสาเหตุของปัญหา (21) ที่น่าสนใจคือการศึกษาได้สรุปไว้ว่า "ความไม่สมดุลของ Histamine/DAO อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของลำไส้อาทิเช่นโรคลำไส้อักเสบ" (22) อีกการศึกษาหนึ่งพบว่าเส้นใยที่ละลายน้ำได้ในรูปแบบของอาหารสามารถเพิ่มระดับเอนไซม์ที่ทำลายฮีสตามีนและป้องกันลำไส้รั่วได้ !!! อาหารที่มีฮีสตามีนต่ำ Mind Body Green (24) : -เนื้อสัตว์ที่เลี้ยงด้วยหญ้าและสัตว์ปีก -ปลาแซลมอน ปลาอินทรีย์และปลาซาร์ดีน -ไข่ที่มาจากกสัตว์เลี้ยงอินทรีย์ -เนยถั่ว -ผักสดยกเว้นมะเขือเทศ ผักโขม อะโวคาโดและมะเขือยาว -นมที่ไม่ใช่นมสัตว์ : กะทิ นมข้าวและนมอัลมอนด์ -น้ำมันมะกอกน้ำมันมะพร้าว -ใบสมุนไพร -ชาสมุนไพร คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพระดับเอ็นไซม์ DAO ของคุณโดยการประกอบอาหารของคุณด้วยวิตามินซีและวิตามิน B6 จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าวิตามินเหล่านี้สามารถลดปริมาณฮีสตามีนได้โดยการสนับสนุนกิจกรรมของเอนไซม์ DAO (25) ด้วยรักและห่วยใยจากใจจริง สวัสดี อ้างอิง Regenerative Medicine 2006 Paleo Leap 2017 Body Ecology 2017 Chris Kresser January 25, 2013 Mind Body Green October 3, 2013 Foods Matter 1, 5, 8 The American Journal of Clinical Nutrition 2007 2, 3 Regenerative Medicine 2006 4, 11, 19 Paleo Leap 2017 6 ISRN Allergy. 2011;2011:353045 7 Clinical Biochemistry Vol. 46, Issues 1-2, January 2013 9, 24 Mind Body Green October 3, 2013 10 Foods Matter 12 Ann Dermatol. 2011 September;23 (supl 1):S91-S95 13, 16 Chris Kresser January 25, 2013 14 Gastroenterol Hepatol (NY). 2007 February;3(2):112-122 15 Microb Ecol Health Dis. 2015 February 2; 26 17 Biochemical Pharmacology January 1978; 26(24:) 2343-2347 18, 20 Body Ecology 2017 21, 22 Am J Physiol Gastrointest Liver Physiol. 2013 April 15;304(8):G732-G740 23 Nutrition. 2002 January;18(1):35-9 25 Subcellular Biochemistry 1996 pp. 189-213 ไม่มีข้อความกำกับภาพอัตโนมัติ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น