เรื่องต่อไปนี้ผมได้มาจาก pantip.com และทำให้ผมมุ่งหาความสัมพันธ์ของนิ้วล็อคกับความไม่สมดุลของสภาวะมดลูกและได้คุยประสบการณ์กับเพื่อนที่รักษาโรคโดยมององค์รวมของร่างกาย และความเหมือนคือ ผู้ป่วยที่ตัดมดลูกพร้อมรังไข่จนหมดทุกราย จะเริ่มมีอาการนิ้วล็อคหลังจากการผ่าตัดราวปีครึ่ง ถ้าใครมีอาการนิ้วล็อค ให้พึงระลึกถึง สภาวะความสมดุลของมดลูกเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะไปแก้ที่ปลายเหตุ และก็แก้ไม่ยากอีกต่างหาก
ลองมาเป็นเชอล็อคโอล์มกันครับ
เราอายุตอนนั้น 40 ปี เป็นเนื้องอกในมดลูกทนทรมานอยู่เกือบ3 ปี
หลังจากไม่ไหวแล้ว คือ หน้ามืดจากการเสียเลือดมาก จากการมีรอบเดือนตลอดเวลา
ทำให้ตัดสินใจเข้าผ่าตัด คุณหมอบอกว่าอายุ 43 แล้วจึงตัดมดลูกออกทั้งหมด
รังไข่ด้วย เราก็คิดว่าดีเหมือนกันตอนนั้นมันทรมานไม่คิดถึงอย่างอื่น
ก่อนผ่าต้องให้เลือดถึง 4 ถุง เพราะเลือดจางมากๆ หลังจากผ่าแล้วพักฟื้น
ก็ปกติดี คอยระวังว่าจะหงุดหงิด จะเครียด จะร้อนๆหนาวๆ เหงื่อจะออก
จะวูบวาบ
จะนอนไม่หลับ...ระวังเหมือนกับที่เคยได้ยินมา...แต่เรากลับไม่เป็นอะไรเลยในประมาณ1
ปีแรก
เราคิดว่าสบายแล้วไม่มีผลกระทบอะไรเลย...แต่ว่า..เราคิดผิด..อาการที่ค่อยๆเกิดแบบเราไม่รู้ตัว
ไม่เคยได้ยินว่ามันเกี่ยวข้องเริ่มกับเราอย่างเงียบๆ
..เริ่มชาที่ปลายนิ้ว จากข้างขวา มาข้างซ้าย ก็หาหมอศัลย์กินยา...เริ่มเจ็บตามข้อเมื่อยแบบมากๆ นั่งรถนานพอลงเดินแล้วลงน้ำหนักไม่ได้เจ็บข้อเท้า หาหมอกระดูก ..กินยา..ตามด้วยนิ้วล็อค..หาหมอกินยา ตามมาอันสุดท้าย ปวดท้องจุกเสียดแน่น แบบโรคกระเพาะ..หาหมอกินยา คือหลังจากปีที่ผ่าตัด เรากลับไปหาหมอแต่เป็นแผนกอื่น...กินยาอย่างหนักหนา
ตอนหลังๆชักไม่แน่ใจ ถามทั้งหมออายุรกรรมและหมอศัลยกรรมกระดูกว่าอาการที่เป็นเกี่ยวข้องกับการตัดมดลูกหรือเปล่า หมอยืนยันว่า..ไม่ใช่..กินยาต่อไป..ไม่หายนะ..ตัดสินใจกลับไปสูตินารีเวชอีกครั้ง...เล่าอาการทั้งหมดให้หมอฟัง..(ผ่านไปอีก 1 ปี) หมอจัดฮอร์โมนให้กิน..ทานได้สัก1เดือนก็บรรเทาอาการต่างๆลง..ตอนนี้อายุ 46 ปี เว้นระยะการทานฮอร์โมนลงหันมาใช้ สมุนไพรแทนก็ ดีขึ้น..กลัวเหมือนกันในการกินฮอร์โมน ..บางครั้งเราก็หลงทางได้เหมือนกัน..ใครจะคิดว่าตัดมดลูกทิ้ง..แล้วนิ้วจะล็อค...ไม่น่าจะเกี่ยวกันเลยสักนิด..ขอเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน..เผื่อว่าจะมีประโยชน์บ้าง
นี่ครับผมสงสารเธอจับใจแทบอยากจะร้องไห้ ได้แต่คิดว่า ถ้าเธอเจอผมก่อนคงจะดี
เชอล็อคโฮมทั้งหลายไม่ต้องไปหาในเน็ตให้เสียเวลานะครับผมหาจนคอมพิวเตอร์จะพังแล้วครับ ไม่มี แต่ดันไปเจองานวิจัยของอิตาลี่เข้า กำลังแปลอยู่ครับ
..เริ่มชาที่ปลายนิ้ว จากข้างขวา มาข้างซ้าย ก็หาหมอศัลย์กินยา...เริ่มเจ็บตามข้อเมื่อยแบบมากๆ นั่งรถนานพอลงเดินแล้วลงน้ำหนักไม่ได้เจ็บข้อเท้า หาหมอกระดูก ..กินยา..ตามด้วยนิ้วล็อค..หาหมอกินยา ตามมาอันสุดท้าย ปวดท้องจุกเสียดแน่น แบบโรคกระเพาะ..หาหมอกินยา คือหลังจากปีที่ผ่าตัด เรากลับไปหาหมอแต่เป็นแผนกอื่น...กินยาอย่างหนักหนา
ตอนหลังๆชักไม่แน่ใจ ถามทั้งหมออายุรกรรมและหมอศัลยกรรมกระดูกว่าอาการที่เป็นเกี่ยวข้องกับการตัดมดลูกหรือเปล่า หมอยืนยันว่า..ไม่ใช่..กินยาต่อไป..ไม่หายนะ..ตัดสินใจกลับไปสูตินารีเวชอีกครั้ง...เล่าอาการทั้งหมดให้หมอฟัง..(ผ่านไปอีก 1 ปี) หมอจัดฮอร์โมนให้กิน..ทานได้สัก1เดือนก็บรรเทาอาการต่างๆลง..ตอนนี้อายุ 46 ปี เว้นระยะการทานฮอร์โมนลงหันมาใช้ สมุนไพรแทนก็ ดีขึ้น..กลัวเหมือนกันในการกินฮอร์โมน ..บางครั้งเราก็หลงทางได้เหมือนกัน..ใครจะคิดว่าตัดมดลูกทิ้ง..แล้วนิ้วจะล็อค...ไม่น่าจะเกี่ยวกันเลยสักนิด..ขอเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน..เผื่อว่าจะมีประโยชน์บ้าง
นี่ครับผมสงสารเธอจับใจแทบอยากจะร้องไห้ ได้แต่คิดว่า ถ้าเธอเจอผมก่อนคงจะดี
เชอล็อคโฮมทั้งหลายไม่ต้องไปหาในเน็ตให้เสียเวลานะครับผมหาจนคอมพิวเตอร์จะพังแล้วครับ ไม่มี แต่ดันไปเจองานวิจัยของอิตาลี่เข้า กำลังแปลอยู่ครับ
รอๆๆค่ะ คุณหมอ คุณแม่สามีเป็นอาการแบบนี้เปี้ยบเลยค่ะ เป็นแบบคุณน้าท่านนี้เปี้ยบเลยค่ะ เหตุจากการผ่าตัดมดลูก ตอนนี้กำลังไล่อ่านข้อความของคุณหมอทุกบทความ แต่ยังตามอ่านหมดค่ะ รองานแปลเรื่องนิ้วล็อกนะคะ
ตอบลบรออ่านค่ะ
ตอบลบผ่าเหมือนกันคะ ตอนนี้เป็นทั้งนิ้วล็อคและ carpal tunnel syndrome หลังผ่าได้ไม่ถึง6เดือน ต้องกลับไปปรึกษาหมอสูติ...??????
ตอบลบ