จากการพูดคุยกับเพื่อนๆหลายท่านจากจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งขอคำปรึกษาเรื่องสุขภาพกับผมอยู่ก็ให้นึกห่วงใยขึ้นมา
จากการได้ยินคำว่า”คนแถวบ้านนิยมกินเห็ดกันมาก”ผมทำนายได้เลยครับว่าคนแถวนั้นต้องเผชิญกับโรคอะไรอยู่บ้าง
และจะหยิบโรคสักชนิดหนึ่งมาเล่ากันก่อนซึ่งตัวร้ายที่เราเข้าใจว่าเป็นโปรตีนจากพืชที่ดีนี่แหละในยามที่ร่างกายอ่อนแอ
เม็ดเลือดขาวด้อยประสิทธิภาพ จากการบริโภคน้ำตาลเยอะเกินความจำเป็น
มันก็จับมือกับไวรัสและเป็นตัวสำคัญเชียวครับและโรคที่จะว่ากันต่อไปนี้
สตรีไทยส่วนใหญ่มักปล่อยให้ลุกลามจนแก้ไขยาก อาจด้วยคิดว่า
มันคงหายไปเองหรือความอายก็ไม่ทราบ เมื่อได้อ่านแล้วก็อย่าปล่อยไว้ครับ
รีบปรึกษาแพทย์หรือหรือนักธรรมชาติบำบัดถ้าไม่อยากใช้สารเคมี มาครับตามมา
ตกขาว
เป็นลักษณะปกติของผู้หญิง ซึ่งช่องคลอดของผู้หญิงจะบุผิวด้วยเยื่อเมือก เหมือนกับที่บุในช่องปาก และจมูกที่เรียกว่า mucous membrane ซึ่งทำหน้าที่สร้างเยื่อเมือก และความชื้นให้กับช่องคลอด ช่องคลอดจะมีฤทธิ์เป็นกรดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยจะเริ่มสร้างเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจนกระทั่งวัยทอง ดังนั้นผู้หญิงอาจจะรู้สึกชื้นๆบริเวณอวัยวะเพศ แต่หากช่องคลอดแห้งจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ช่องคลอดและเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
ปริมาณตกขาวจะขึ้นกับแต่ละคน ตกขาวจะมีมากช่วงที่ไข่ตกอยู่ระหว่างวันที่ 14 ของรอบเดือน นอกจากนั้นขณะตั้งครรภ์ก็จะพบว่าตกขาวมากจนบางครั้งอาจจะเหนียวหนืด การกระตุ้นทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีการหลั่งน้ำออกมาหล่อลื่นมาก หลังจากมีกิจกรรมทางเพศก็มีตกขาวเป็นปริมาณมาก การใช้ยาคุมกำเนิดก็ทำให้ตกขาวเพิ่มขึ้นด้วยครับ
ภาวะตกขาว
ภาวะตกขาว ซึ่งบางทีเรียกว่า มุตกิด หรือระดูขาวนั้น เป็นอาการที่แสดงออกมาจากการตอบสนองต่อฮอร์โมนในสตรีที่ปกติ หรือจากการที่เป็นโรคที่ไม่รุนแรงเรื่อยไปจนกระทั่งถึงโรคที่รุนแรงก็ได้ ดังนั้นภาวะนี้จึงมีความสำคัญมิใช่น้อยครับ
แล้วตกขาว คืออะไร ตามมาครับ ผู้ชายเองก็ควรอ่านนะครับจะได้แนะนำภรรยาได้บ้างถ้าเธอรู้สึกอาย หรืออะไรทำนองนี้ครับ
ตกขาว เป็นของเหลวใด ๆ ที่ไหลออกมานอกช่องคลอด แต่ไม่ใช่เลือด ของเหลวดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากช่องคลอด ปากมดลูก และอวัยวะข้างเคียงบริเวณปากช่องคลอด ลักษณะของตกขาว จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ทั้งในขณะที่อยู่ในภาวะปกติ หรือกำลังเป็นโรคอยู่
ภาวะตกขาวที่ปกติ
ตามปกติแล้วในสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (อีกนัยหนึ่ง คือ สตรีที่อยู่ในช่วงอายุที่ยังมีประจำเดือน หรือมีฮอร์โมนเพศหญิงเจริญเต็มที่) จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแตกต่างกันไปตามระยะของประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลต่อการลักษณะของเหลวที่สร้างขึ้นมาจากอวัยวะต่าง ๆ ในระบบสืบพันธุ์สตรี ดังเช่น ในช่วงกึ่งกลางรอบประจำเดือนหรือระยะใกล้เคียงกับการตกไข่ ซึ่งเป็นเวลาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ทำให้ในช่วงเวลานี้ จะมีตกขาวลักษณะค่อนข้างเหลวใส ๆ ปริมาณมากกว่าระยะเวลาอื่น ส่วนตกขาวในระยะเวลาอื่นจะมีสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก นอกจากนั้นแล้ว ตกขาวที่ปกติควรจะไม่คัน และไม่มีกลิ่น ถ้าตกขาวของท่านมีลักษณะดังที่กล่าวมานี้ถือว่าปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องรักษาครับ
แต่อย่างไรก็ตาม สตรีแต่ละท่านจะมีปริมาณตกขาวแตกต่างกันไป บางท่านอาจมีปริมาณตกขาวมากจนเปื้อนชุดชั้นในอยู่หลายวันในแต่ละเดือน แต่สำหรับบางท่านอาจมีปริมาณน้อยจนไม่รู้ว่ามีตกขาวเลย
นอกจากนี้ ฮอร์โมนในสตรีในวัยดังกล่าว ทำให้เซลล์ในช่องคลอดสมบูรณ์ และมีการสร้างสารประเภทแป้งที่เรียกว่าไกลโคเจน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยแบคทีเรียชนิดหนึ่งให้เป็นกรดอ่อน ๆ ภาวะนี้จะช่วยป้องกันการรุกรานจากเชื้อโรคชนิดอื่นที่ก่อให้เกิดความผิดปกติได้
ภาวะตกขาวที่ผิดปกติ
ตกขาวผิดปกติจะมีสาเหตุใหญ่อยู่ 2 ประเภท คือ สาเหตุจากการติดเชื้อ และสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ
ตกขาวจากสาเหตุนี้ เกิดได้จากเชื้อ ไวรัส แบคทีเรีย รา และพยาธิในช่องคลอด ตกขาวประเภทนี้ บางชนิดจะมีลักษณะที่ค่อนข้างเฉพาะตัวครับ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส
เชื้อไวรัสบางชนิดเป็นเชื้อโรคที่ติดต่อมาโดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ บางครั้งอาจไม่มีอาการชัดเจน ตัวอย่างของโรคในกลุ่มนี้ได้แก่ โรคเริม จะมีอาการเป็นตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก ต่อมาจะแตกเป็นแผลแสบ มีตกขาวสีเหลืองมีกลิ่นผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งแรกที่ปรากฏอาการ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย
ตกขาวประเภทนี้มักมีสีเหลือง หรือค่อนข้างเขียว อาจมีอาการคันในบางราย เชื้อบางชนิดอาจเกิดตกขาวมีกลิ่นคาวปลาหลังการร่วมเพศ แต่ในกรณีที่มีการติดเชื้อจากโรคหนองในจะมีตกขาวสีเหลืองจัด อาจร่วมกับมีอาการปัสสาวะแสบขัดได้
ตกขาวมีสาเหตุจากเชื้อรา
เชื้อราในช่องคลอดมักทำให้เกิดอาการตกขาวสีขาว มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายนมที่ทารกแหวะออกมา และมีอาการคันช่องคลอด การตกขาวชนิดนี้มักไม่ได้เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ น้ำยาสวนล้างช่องคลอดที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยกำลังใช้ยาที่มีฤทธิ์กดภูมิต้านทาน SLE รูมาติซั่ม เป็นต้น อันนี้ต้องใปแก้ที่โรคต้นเหตุก่อนครับ ไม่งั้นก็เป็น ๆ หาย ๆ จนน่ารำคาญ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด
พยาธิชนิดนี้เป็นโรคติดต่อเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง มักมีสีเหลือง อาจเห็นเป็นฟอง มีอาการคันช่องคลอด และอาจมีกลิ่นออกเปรี้ยวเล็กน้อย
ตกขาวที่มีสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ
ตกขาวผิดปกติประเภทนี้ มีสาเหตุได้จาก การระคายเคืองหรือแพ้สารเคมี จากมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี (เช่น มะเร็งของปากมดลูก ช่องคลอด ท่อนำไข่) รวมทั้งเกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด
ท่านที่ตกขาวปกติก็ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา เพียงแต่ควรไปพบสูตินรีแพทย์ขเพื่อตรวจภายในพร้อมทั้งตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำปี
แต่ถ้าหากว่าท่านมีอาการตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติ กล่าวคือ มีสี กลิ่นผิดไปจากปกติหรืออาจมีอาการคันร่วมด้วย ก็ควรจะได้รับการตรวจและรักษาให้ถูกต้องตามสาเหตุ ทั้งนี้เนื่องมาจากการรักษาที่ตรงตามสาเหตุจะทำให้โรคหายเร็วขึ้น เช่น ในกรณีที่ตกขาวจากเชื้อรา แพทย์อาจจะให้ยาเหน็บรักษาด้วย โคลไทรมาโซล หรือถ้าเป็นจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด ก็อาจจะต้องใช้ยารับประทาน เมโทรนิดาโซล เป็นต้น ประการที่สองสาเหตุของตกขาวที่ผิดปกติบางครั้งอาจเกิดจากมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีได้ โรคดังกล่าวนี้ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ส่วนประการสุดท้ายคือ ถ้าอาการตกขาวของท่านมีสาเหตุจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ท่านควรจะได้รับการตรวจหาพร้อมกับการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นที่อาจเกิดร่วมด้วย รวมทั้งต้องมีการตรวจรักษาคู่สมรสด้วย จึงจะไม่ทำให้ท่านและคู่สมรสเกิดภาวะแทรกซ้อนและเกิดโรคขึ้นซ้ำอีกในภายหลัง
วิธีป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด
การทำความสะอาดทวารหนักนั้น ผู้หญิงทุกคนควรเช็ดจากหน้าไปหลัง เนื่องจากผู้หญิงมีช่องคลอดและทวารหนักอยู่ใกล้กัน จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง เวลาที่เข้าห้องน้ำสาธารณะ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้น้ำฉีดทำความสะอาดหลังปัสสาวะเสร็จ แค่ใช้กระดาษทิชชูซับก็พอแล้วครับ กลับมาบ้านค่อยล้างออก แต่ถ้าคิดว่าปัสสาวะเสร็จต้องล้าง เพราะคิดว่าสกปรกซึ่งไม่เป็นความจริง ปัสสาวะแค่ทำให้เกิดกลิ่นเท่านั้นครับ การใช้หัวฉีดร่วมกันถ้าคนที่ใช้ก่อนหน้ามีการตกขาวหรือมีเชื้อโรคก็ติดต่อได้ครับ ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรฉีดน้ำทิ้งก่อน และการใช้น้ำฉีดอาจก่อให้เกิดความอับชื้นซึ่งมีโอกาสเป็นเชื้อราสูงครับ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
การสวนล้างช่องคลอด บางคนทำความสะอาดแบบหมดจดจริง ๆ ล้วงเข้าไปทำความสะอาด หรือใช้น้ำยาเข้าไปทำความสะอาดในช่องคลอด ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะช่องคลอดมีความสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำความสะอาดแค่ภายนอกใช้น้ำอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว เหมือนกับการล้างหน้า ถ้ารู้สึกว่าหน้าเหนียวเหนอะหนะก็ล้างหน้า อาจเป็นวันละ 2 ครั้งก็พอแล้วครับ ส่วนใหญ่ที่แนะนำ คือ ทำความสะอาดตอนอาบน้ำ โดยใช้น้ำธรรมดาไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาอะไร นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ติดเชื้อได้ครับ
โรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคหนองในเทียม โรคหนองในแท้ เริม ซึ่งมาจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา และโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่น เนื้องอก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งปากมดลูก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรปล่อยละเลย โดยหวังว่าให้อาการนั้นหายไปเอง เพราะถ้ารักษาไม่ถูกต้อง เชื้อโรคอาจจะเกิดการลุกลาม อักเสบ จนอาจจะทำให้เป็นฝีที่มดลูก อาจต้องตัดปีกมดลูก หรือตัดมดลูกทิ้งไป ดังนั้นควรรีบทำการรักษาให้หายขาดครับ
การดูแลตนเองเพื่อให้โรคตกขาวหายและดีขึ้น รวมถึงการป้องกันที่คุณทำได้ด้วยตนเองได้แก่
1. เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการนอนที่ดีคือประมาณ 4 ทุ่ม
2. ดูและอวัยวะเพศให้สะอาด ไม่มีความอับชื้น เลือกชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อการระบายที่ดี ควรใช้เสื้อที่เป็นใยผ้าแบบธรรมชาติและต้องไม่ระคาดเคือง
3. ไม่สวมใส่กางเกงที่รัด หรือฟิตเกินไป
4. จำเป็นต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ หากคุณไม่น่าใจว่า ตกขาวที่คุณเป็น นั้นรายแรงหรือไม่
5. ทำความสะอาดโดยเช็ดจากหน้าไปหลังและต้องใช้น้ำที่สะอาดและการใช้ผลิตภัณฑ์ภายนอกต่าง ๆ เมื่อคุณเป็นตกขาวแล้ว นอกจากไม่ช่วยอะไรยังจะทำให้คุณมีอาการเป็นหนักขึ้นอีกด้วยลองหาข้อมูลให้ดี ๆ ครับ
6. หากตอนนี้คุณอาจจะต้องเช็ดล้าง จุดนั้นของคุณทุก 2-3 ชั่วโมง และต้องไม่ใช่การส่วนล้างแต่ให้ล้างเบาๆ และบ่อยบ่อยขึ้นครับ
และจากการศึกษาทั้งยาแผนปัจจุบันซึ่งอาจมีการดื้อยาในบางกรณี สมุนไพรทั้งที่สกัดและไม่สกัด รวมถึงอาหารเสริมที่วางขายในท้องตลาดทั้งหมด สุดท้ายก็มาจบที่ สารตัวนี้ครับ สารเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นตัวประกอบที่สำคัญและอาจมีมากมีน้อยในแต่ละผลิตภัณฑ์ต่างกันไปตามวัตถุดิบที่ใช้สกัดครับ เมื่อได้อ่านกันแล้วอย่าปล่อยไว้นะครับ รีบรักษาให้หายขาดครับ ก่อนลาก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีกันทุกๆคนครับ สวัสดีครับ
ตกขาว
เป็นลักษณะปกติของผู้หญิง ซึ่งช่องคลอดของผู้หญิงจะบุผิวด้วยเยื่อเมือก เหมือนกับที่บุในช่องปาก และจมูกที่เรียกว่า mucous membrane ซึ่งทำหน้าที่สร้างเยื่อเมือก และความชื้นให้กับช่องคลอด ช่องคลอดจะมีฤทธิ์เป็นกรดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยจะเริ่มสร้างเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจนกระทั่งวัยทอง ดังนั้นผู้หญิงอาจจะรู้สึกชื้นๆบริเวณอวัยวะเพศ แต่หากช่องคลอดแห้งจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ช่องคลอดและเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
ปริมาณตกขาวจะขึ้นกับแต่ละคน ตกขาวจะมีมากช่วงที่ไข่ตกอยู่ระหว่างวันที่ 14 ของรอบเดือน นอกจากนั้นขณะตั้งครรภ์ก็จะพบว่าตกขาวมากจนบางครั้งอาจจะเหนียวหนืด การกระตุ้นทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีการหลั่งน้ำออกมาหล่อลื่นมาก หลังจากมีกิจกรรมทางเพศก็มีตกขาวเป็นปริมาณมาก การใช้ยาคุมกำเนิดก็ทำให้ตกขาวเพิ่มขึ้นด้วยครับ
ภาวะตกขาว
ภาวะตกขาว ซึ่งบางทีเรียกว่า มุตกิด หรือระดูขาวนั้น เป็นอาการที่แสดงออกมาจากการตอบสนองต่อฮอร์โมนในสตรีที่ปกติ หรือจากการที่เป็นโรคที่ไม่รุนแรงเรื่อยไปจนกระทั่งถึงโรคที่รุนแรงก็ได้ ดังนั้นภาวะนี้จึงมีความสำคัญมิใช่น้อยครับ
แล้วตกขาว คืออะไร ตามมาครับ ผู้ชายเองก็ควรอ่านนะครับจะได้แนะนำภรรยาได้บ้างถ้าเธอรู้สึกอาย หรืออะไรทำนองนี้ครับ
ตกขาว เป็นของเหลวใด ๆ ที่ไหลออกมานอกช่องคลอด แต่ไม่ใช่เลือด ของเหลวดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากช่องคลอด ปากมดลูก และอวัยวะข้างเคียงบริเวณปากช่องคลอด ลักษณะของตกขาว จะมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ทั้งในขณะที่อยู่ในภาวะปกติ หรือกำลังเป็นโรคอยู่
ภาวะตกขาวที่ปกติ
ตามปกติแล้วในสตรีที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ (อีกนัยหนึ่ง คือ สตรีที่อยู่ในช่วงอายุที่ยังมีประจำเดือน หรือมีฮอร์โมนเพศหญิงเจริญเต็มที่) จะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนแตกต่างกันไปตามระยะของประจำเดือน การเปลี่ยนแปลงนี้ จะมีผลต่อการลักษณะของเหลวที่สร้างขึ้นมาจากอวัยวะต่าง ๆ ในระบบสืบพันธุ์สตรี ดังเช่น ในช่วงกึ่งกลางรอบประจำเดือนหรือระยะใกล้เคียงกับการตกไข่ ซึ่งเป็นเวลาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ทำให้ในช่วงเวลานี้ จะมีตกขาวลักษณะค่อนข้างเหลวใส ๆ ปริมาณมากกว่าระยะเวลาอื่น ส่วนตกขาวในระยะเวลาอื่นจะมีสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก นอกจากนั้นแล้ว ตกขาวที่ปกติควรจะไม่คัน และไม่มีกลิ่น ถ้าตกขาวของท่านมีลักษณะดังที่กล่าวมานี้ถือว่าปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องรักษาครับ
แต่อย่างไรก็ตาม สตรีแต่ละท่านจะมีปริมาณตกขาวแตกต่างกันไป บางท่านอาจมีปริมาณตกขาวมากจนเปื้อนชุดชั้นในอยู่หลายวันในแต่ละเดือน แต่สำหรับบางท่านอาจมีปริมาณน้อยจนไม่รู้ว่ามีตกขาวเลย
นอกจากนี้ ฮอร์โมนในสตรีในวัยดังกล่าว ทำให้เซลล์ในช่องคลอดสมบูรณ์ และมีการสร้างสารประเภทแป้งที่เรียกว่าไกลโคเจน ซึ่งจะถูกเปลี่ยนแปลงโดยแบคทีเรียชนิดหนึ่งให้เป็นกรดอ่อน ๆ ภาวะนี้จะช่วยป้องกันการรุกรานจากเชื้อโรคชนิดอื่นที่ก่อให้เกิดความผิดปกติได้
ภาวะตกขาวที่ผิดปกติ
ตกขาวผิดปกติจะมีสาเหตุใหญ่อยู่ 2 ประเภท คือ สาเหตุจากการติดเชื้อ และสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อ
ตกขาวจากสาเหตุนี้ เกิดได้จากเชื้อ ไวรัส แบคทีเรีย รา และพยาธิในช่องคลอด ตกขาวประเภทนี้ บางชนิดจะมีลักษณะที่ค่อนข้างเฉพาะตัวครับ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อไวรัส
เชื้อไวรัสบางชนิดเป็นเชื้อโรคที่ติดต่อมาโดยการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ บางครั้งอาจไม่มีอาการชัดเจน ตัวอย่างของโรคในกลุ่มนี้ได้แก่ โรคเริม จะมีอาการเป็นตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก ต่อมาจะแตกเป็นแผลแสบ มีตกขาวสีเหลืองมีกลิ่นผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งแรกที่ปรากฏอาการ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย
ตกขาวประเภทนี้มักมีสีเหลือง หรือค่อนข้างเขียว อาจมีอาการคันในบางราย เชื้อบางชนิดอาจเกิดตกขาวมีกลิ่นคาวปลาหลังการร่วมเพศ แต่ในกรณีที่มีการติดเชื้อจากโรคหนองในจะมีตกขาวสีเหลืองจัด อาจร่วมกับมีอาการปัสสาวะแสบขัดได้
ตกขาวมีสาเหตุจากเชื้อรา
เชื้อราในช่องคลอดมักทำให้เกิดอาการตกขาวสีขาว มีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ คล้ายนมที่ทารกแหวะออกมา และมีอาการคันช่องคลอด การตกขาวชนิดนี้มักไม่ได้เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สาเหตุที่พบบ่อยเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ น้ำยาสวนล้างช่องคลอดที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ หรือในกรณีที่ผู้ป่วยมีภูมิต้านทานต่ำ เช่น ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ป่วยกำลังใช้ยาที่มีฤทธิ์กดภูมิต้านทาน SLE รูมาติซั่ม เป็นต้น อันนี้ต้องใปแก้ที่โรคต้นเหตุก่อนครับ ไม่งั้นก็เป็น ๆ หาย ๆ จนน่ารำคาญ
ตกขาวที่มีสาเหตุจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด
พยาธิชนิดนี้เป็นโรคติดต่อเชื้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง มักมีสีเหลือง อาจเห็นเป็นฟอง มีอาการคันช่องคลอด และอาจมีกลิ่นออกเปรี้ยวเล็กน้อย
ตกขาวที่มีสาเหตุจากการไม่ติดเชื้อ
ตกขาวผิดปกติประเภทนี้ มีสาเหตุได้จาก การระคายเคืองหรือแพ้สารเคมี จากมะเร็งในอวัยวะสืบพันธุ์สตรี (เช่น มะเร็งของปากมดลูก ช่องคลอด ท่อนำไข่) รวมทั้งเกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด
ท่านที่ตกขาวปกติก็ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา เพียงแต่ควรไปพบสูตินรีแพทย์ขเพื่อตรวจภายในพร้อมทั้งตรวจมะเร็งปากมดลูกประจำปี
แต่ถ้าหากว่าท่านมีอาการตกขาวที่มีลักษณะผิดปกติ กล่าวคือ มีสี กลิ่นผิดไปจากปกติหรืออาจมีอาการคันร่วมด้วย ก็ควรจะได้รับการตรวจและรักษาให้ถูกต้องตามสาเหตุ ทั้งนี้เนื่องมาจากการรักษาที่ตรงตามสาเหตุจะทำให้โรคหายเร็วขึ้น เช่น ในกรณีที่ตกขาวจากเชื้อรา แพทย์อาจจะให้ยาเหน็บรักษาด้วย โคลไทรมาโซล หรือถ้าเป็นจากเชื้อพยาธิในช่องคลอด ก็อาจจะต้องใช้ยารับประทาน เมโทรนิดาโซล เป็นต้น ประการที่สองสาเหตุของตกขาวที่ผิดปกติบางครั้งอาจเกิดจากมะเร็งอวัยวะสืบพันธุ์สตรีได้ โรคดังกล่าวนี้ควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน ส่วนประการสุดท้ายคือ ถ้าอาการตกขาวของท่านมีสาเหตุจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ท่านควรจะได้รับการตรวจหาพร้อมกับการรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดอื่นที่อาจเกิดร่วมด้วย รวมทั้งต้องมีการตรวจรักษาคู่สมรสด้วย จึงจะไม่ทำให้ท่านและคู่สมรสเกิดภาวะแทรกซ้อนและเกิดโรคขึ้นซ้ำอีกในภายหลัง
วิธีป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด
การทำความสะอาดทวารหนักนั้น ผู้หญิงทุกคนควรเช็ดจากหน้าไปหลัง เนื่องจากผู้หญิงมีช่องคลอดและทวารหนักอยู่ใกล้กัน จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง เวลาที่เข้าห้องน้ำสาธารณะ ถ้าไม่จำเป็นไม่ควรใช้น้ำฉีดทำความสะอาดหลังปัสสาวะเสร็จ แค่ใช้กระดาษทิชชูซับก็พอแล้วครับ กลับมาบ้านค่อยล้างออก แต่ถ้าคิดว่าปัสสาวะเสร็จต้องล้าง เพราะคิดว่าสกปรกซึ่งไม่เป็นความจริง ปัสสาวะแค่ทำให้เกิดกลิ่นเท่านั้นครับ การใช้หัวฉีดร่วมกันถ้าคนที่ใช้ก่อนหน้ามีการตกขาวหรือมีเชื้อโรคก็ติดต่อได้ครับ ถ้าจำเป็นต้องใช้ควรฉีดน้ำทิ้งก่อน และการใช้น้ำฉีดอาจก่อให้เกิดความอับชื้นซึ่งมีโอกาสเป็นเชื้อราสูงครับ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
การสวนล้างช่องคลอด บางคนทำความสะอาดแบบหมดจดจริง ๆ ล้วงเข้าไปทำความสะอาด หรือใช้น้ำยาเข้าไปทำความสะอาดในช่องคลอด ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิด เพราะช่องคลอดมีความสมดุลในตัวอยู่แล้ว ทำความสะอาดแค่ภายนอกใช้น้ำอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว เหมือนกับการล้างหน้า ถ้ารู้สึกว่าหน้าเหนียวเหนอะหนะก็ล้างหน้า อาจเป็นวันละ 2 ครั้งก็พอแล้วครับ ส่วนใหญ่ที่แนะนำ คือ ทำความสะอาดตอนอาบน้ำ โดยใช้น้ำธรรมดาไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาอะไร นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าอนามัยแบบสอดเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคือง ติดเชื้อได้ครับ
โรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรคหนองในเทียม โรคหนองในแท้ เริม ซึ่งมาจากการติดเชื้อไวรัส เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อรา และโรคร้ายแรงอื่น ๆ เช่น เนื้องอก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งปากมดลูก นี่จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรปล่อยละเลย โดยหวังว่าให้อาการนั้นหายไปเอง เพราะถ้ารักษาไม่ถูกต้อง เชื้อโรคอาจจะเกิดการลุกลาม อักเสบ จนอาจจะทำให้เป็นฝีที่มดลูก อาจต้องตัดปีกมดลูก หรือตัดมดลูกทิ้งไป ดังนั้นควรรีบทำการรักษาให้หายขาดครับ
การดูแลตนเองเพื่อให้โรคตกขาวหายและดีขึ้น รวมถึงการป้องกันที่คุณทำได้ด้วยตนเองได้แก่
1. เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งการนอนที่ดีคือประมาณ 4 ทุ่ม
2. ดูและอวัยวะเพศให้สะอาด ไม่มีความอับชื้น เลือกชุดชั้นในที่ทำจากผ้าฝ้าย เพื่อการระบายที่ดี ควรใช้เสื้อที่เป็นใยผ้าแบบธรรมชาติและต้องไม่ระคาดเคือง
3. ไม่สวมใส่กางเกงที่รัด หรือฟิตเกินไป
4. จำเป็นต้องงดการมีเพศสัมพันธ์ หากคุณไม่น่าใจว่า ตกขาวที่คุณเป็น นั้นรายแรงหรือไม่
5. ทำความสะอาดโดยเช็ดจากหน้าไปหลังและต้องใช้น้ำที่สะอาดและการใช้ผลิตภัณฑ์ภายนอกต่าง ๆ เมื่อคุณเป็นตกขาวแล้ว นอกจากไม่ช่วยอะไรยังจะทำให้คุณมีอาการเป็นหนักขึ้นอีกด้วยลองหาข้อมูลให้ดี ๆ ครับ
6. หากตอนนี้คุณอาจจะต้องเช็ดล้าง จุดนั้นของคุณทุก 2-3 ชั่วโมง และต้องไม่ใช่การส่วนล้างแต่ให้ล้างเบาๆ และบ่อยบ่อยขึ้นครับ
และจากการศึกษาทั้งยาแผนปัจจุบันซึ่งอาจมีการดื้อยาในบางกรณี สมุนไพรทั้งที่สกัดและไม่สกัด รวมถึงอาหารเสริมที่วางขายในท้องตลาดทั้งหมด สุดท้ายก็มาจบที่ สารตัวนี้ครับ สารเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นตัวประกอบที่สำคัญและอาจมีมากมีน้อยในแต่ละผลิตภัณฑ์ต่างกันไปตามวัตถุดิบที่ใช้สกัดครับ เมื่อได้อ่านกันแล้วอย่าปล่อยไว้นะครับ รีบรักษาให้หายขาดครับ ก่อนลาก็ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพดีกันทุกๆคนครับ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น